หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูปลัดศุภชัย ปริชาโน (ฉัตรคู่)
 
เข้าชม : ๑๙๙๘๖ ครั้ง
ศึกษาอธิโมกข์ ในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน ๔
ชื่อผู้วิจัย : พระครูปลัดศุภชัย ปริชาโน (ฉัตรคู่) ข้อมูลวันที่ : ๑๔/๐๘/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(วิปัสนาภาวนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาสุรชัย วราสโภ ป.ธ.๗, พธ.บ., M.A., Ph.D.
  พระศรีสุธรรมมุนี ป.ธ.๘, ศน.บ.
  พระมหาบุญเลิศ ธมฺมทสฺสี ป.ธ.๘, พธ.บ., พธ.ม.
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๕
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

                      วิทยานิพนธ์ เรื่อง ศึกษาอธิโมกข์ในการปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐาน    มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการ คือ เพื่อศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน ๔ ที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท และเพื่อศึกษาอธิโมกข์อันเป็นวิปัสสนูปกิเลสที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท  โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทคือ พระไตรปิฎก  อรรถกถา ฎีกา  และคัมภีร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วรวบรวมข้อมูล  เรียบเรียง บรรยายเชิงพรรณนาและตรวจสอบความถูกต้อง โดยอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และผู้เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาภาวนา

                      ผลการวิจัยพบว่า สติปัฏฐาน ๔ ได้รูป ๑ กับนาม ๓ ซึ่งการปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน ๔  ชื่อว่า ภาวนา  ดังหลักฐานที่ปรากฏในคัมภีร์อรรถกถาทีฆนิกายว่า  ชื่อว่าการไม่ถูกต้องธรรมบางอย่างในกาย เวทนา จิต และธรรมทั้งหลายแล้ว ภาวนาย่อมไม่มี  ดังนั้น การเจริญสติปัฏฐาน ๔ คือ การระลึกรู้ในอารมณ์ของรูป-นาม ชื่อว่า การกำหนดรู้สัจจะ ๓ อันเป็นญาณชั้นโลกิยะเท่านั้น คือ การกำหนดรู้ทุกขสัจจ์ด้วยการกำหนดรู้นามและรูป กระทำมาก่อนแล้วในทิฏฐิวิสุทธิ  การกำหนดรู้สมุทยสัจจ์ด้วยการกำหนดรู้ปัจจัย กระทำมาแล้วในกังขาวิตรณวิสุทธิ การกำหนดรู้มัคค-สัจจ์ด้วยการจำกัดแต่เพียงมรรคโดยชอบ กระทำแล้วในมัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ ความรู้ว่าทางและมิใช่ทางนี้ ชื่อว่า ได้เกิดวิปัสสนา  เพราะการรู้แจ้งเห็นจริงว่า  รูปนาม  เป็นอนิจจัง  เป็นทุกขัง  และเป็นอนัตตา

                      อธิโมกข์  หมายถึง ความตัดสินใจเชื่อโดยอาศัยวิปัสสนาญาณที่ดำเนินไป พบสภาวธรรมวิเศษ ๙ ในอุปกิเลส ๑๐

                      ในการปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐานนั้นอธิโมกข์ปรากฏในหมวดธัมมานุปัสสนาซึ่งตรงกับหลักฐานในคัมภีร์ขุททกนิกายปฏิสัมภิทามรรคเรื่องธัมมุทธัจจะ หมายความว่า อธิโมกข์ชื่อว่า อุทธัจจะนั่นเอง  ท่านให้เหตุผลว่า ผู้ที่หลงใหลในธรรมวิเศษที่เป็นปรากฏการณ์ใน    อุทยัพพยญาณอ่อนๆ ซึ่งเป็นปัญญาที่ยังไม่แก่กล้า ด้วยอำนาจแห่งความยินดีพอใจในผลของการปฏิบัติที่เกิดขึ้นกับตน จนเป็นเหตุให้วิปัสสนาญาณเศร้าหมองไม่ผ่องใส ความหลงไหลในอมัคคะว่าเป็นมัคคะนี้ท่านเรียกว่า ความฟุ้งซ่านในทางธรรม ซึ่งต่างจากความฟุ้งของคนทั่วไป  ความฟุ้งนี้เป็นธรรมที่ละเอียดประณีต  เป็นสิ่งที่รู้ไม่ ได้ด้วยการนึกคิดพิจารณาใด ๆ  

                      วิธีการปฏิบัติต่ออธิโมกข์  ควรกำหนดรู้สภาวะลักษณะของอธิโมกข์ว่า อาการที่เกิดขึ้นนี้มีเพียงรูปนามว่า เป็นสิ่งไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ได้ และไม่มีตัวตน  เมื่อกำหนดรู้บ่อย ๆ มาก ๆ ด้วยสติสัมปชัญญะในรูปนามทางในทวารทั้ง ๖ คือ (๑) เวลาเห็นกำหนดว่า เห็นหนอ (๒) เวลาได้ยินเสียงกำหนดว่า ได้ยินหนอ (๓) เวลาได้กลิ่นกำหนดว่า กลิ่นหนอ (๔) เวลาลิ้มรสกำหนดว่า รสหนอ (๕) เวลาถูกต้องสัมผัสกำหนดว่า ถูกหนอ และ (๖) เวลาคิดกำหนดว่า คิดหนอ ก็จะข้ามพ้นสภาวะแห่งอธิโมกข์ไปได้

 

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕