หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูกันตสีลาภิวัฒน์(ชนิด ฉนฺทโก)
 
เข้าชม : ๑๙๙๘๓ ครั้ง
การส่งเสริมความสามัคคีในสังคมไทยตามหลักอธิษฐานธรรม๔
ชื่อผู้วิจัย : พระครูกันตสีลาภิวัฒน์(ชนิด ฉนฺทโก) ข้อมูลวันที่ : ๒๙/๐๘/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระเทพปริยัติเมธี, ผศ.ดร.ป.ธ.๙, กศ.ม, พธ.ด.
  ศ.(พิเศษ)ดร. กาญจนา เงารังษี, อ.บ.,M.A., Ph.D.
  ผศ.อานนท์ เมธีวรฉัตร,ป.ธ. ๖, พธ.บ, ศษ.บ.,กศ.ม.
วันสำเร็จการศึกษา :
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

 

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้  มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ  ๑) เพื่อศึกษาสถานภาพของสังคมไทย๒)  ศึกษาความหมายหลักอธิษฐานธรรม ๔ กับการสร้างความสามัคคีในสังคมไทยและ ๓) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้หลักอธิษฐานธรรม ๔ เพื่อส่งเสริมความสามัคคีในสังคมไทย

            งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเอกสาร โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากพระไตรปิฎก อรรถกถา ตำราวิชาการ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องผู้วิจัยได้วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แล้วนำมาเรียบเรียงนำมาเสนอในเชิงพรรณนา

            ผลการวิจัยพบว่า

๑) สถานภาพของสังคมไทยปัจจุบันมีเสรีภาพเกินขอบเขต มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ความขัดแย้งอาจเริ่มที่เจตคติทางความคิด ทางลัทธิความเชื่อ หรือแม้แต่การดำเนินชีวิต  ที่แตกต่างกัน  สิ่งต่างๆ  เหล่านี้เป็นสาเหตุให้เกิดข้อพิพาทมากมายในสังคมกลายเป็นการแตกความสามัคคีของคนไทย  ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้ประเทศชาติขาดความมั่นคงซึ่งแต่ก่อนนั้นสังคมไทยเคยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน มีความรักความสามัคคีกันฉันท์พี่น้อง  และก็ยังอยากเห็นทุกคนกลับมาสามัคคีกันเหมือนเดิม

    ๒)ผลจากการศึกษาผู้วิจัยพบว่าอธิษฐานธรรม ๔หมายถึง ธรรมอันเป็นที่มั่นธรรมอันเป็นรากฐานที่มั่นคงของบุคคล เพื่อให้สามารถยึดเอาผลสำเร็จสูงสุดอันเป็นที่หมายไว้ได้ โดยไม่เกิดความสำคัญตนผิดและไม่เกิดสิ่งมัวหมอง หมักหมมทับถมตน ผู้ปฏิบัติตามหลักอธิษฐานธรรม ๔ ย่อมประกอบด้วยปัญญาไม่ไปสร้างความวุ่นวายในสังคม หลักอธิษฐานธรรม ๔ คือ ปัญญา (ความรู้ชัด) สัจจะ (ความจริง) จาคะ (ความสละ) และอุปสมะ (ความสงบ)เมื่อนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางใน

 

 

 

การดำเนินชีวิตร่วมกันในสังคมก็จะช่วยส่งผลให้สังคมไทยมีความสงบร่มเย็น เป็นชุมชนที่มีความสามัคคีน่าอยู่อาศัย

๓) แนวคิดเรื่องการส่งเสริมความสามัคคีในสังคมไทยตามหลักอธิษฐานธรรม ๔ มาประยุกต์ใช้ในสังคมไทยจากการศึกษา พบว่าสังคมไทยต้องการความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนในสังคม  ด้วยการรวมพลังกันปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ถูกต้องดีงามตามหลักการ ข้อบังคับ กติกา และศีลธรรม สิ่งที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสังคมไทยให้เดินหน้าไปสู่ความสามัคคี คือ ทุกคนใช้ปัญญาในการทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ ดำรงมั่นในความจริงที่รู้ชัดด้วยปัญญา มีการสละสิ่งทั้งหลายอันผิดพลาดจากความจริงเสียได้ และใช้วิถีทางสันติระงับโทษข้อขัดข้องมัวหมองวุ่นวาย ทำจิตใจให้สงบได้ ถือความสามัคคีเป็นใหญ่ย่อมส่งผลให้เกิดความสงบสุขทั้งแก่ตนและสังคมอย่างแท้จริง

ดาวน์โหลด

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕